การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายถึง
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาด โดยใช้ให้น้อย
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงระยะเวลาในการใช้ให้ยาวนาน
และก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งต้องมีการกระจายการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม
ในสภาพปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความเสื่อมโทรมมากขึ้น
ดังนั้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงมีความหมายรวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้วย
ปัญหาที่เกิดผลกระทบต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
ส่วนใหญ่เป็นปัญหา ที่มนุษย์เป็นผู้กระทำ ต่อ แหล่งธรรมชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม
มากกว่าเกิดจากการกระทำ ของธรรมชาติ ดังนั้น
การแก้ไขปัญหานี้ จึงต้องดำเนินการโดยมนุษย์เอง โดยจะต้อง ให้มีการจัดการ
ในแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้แหล่งธรรมชาติ คงไว้ซึ่งคุณค่า ความสำคัญ
และให้การเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหา
มีดังนี้
1. ให้หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน
และประชาชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันวางแผนในการดำเนินการป้องกัน สงวน
รักษาและอนุรักษ์ไว้ ซึ่งคุณค่าความสำคัญ และสภาพสิ่งแวดล้อมของแหล่งธรรมชาติ
อย่างจริงจัง ทั้งนี้ให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม จัดทำหลักเกณฑ์การพัฒนาเทคนิควิธีการประเมินคุณค่าทางด้านสุนทรียภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและกำหนดมาตรการการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ของแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์แต่ละประเภทให้ชัดเจนรวมทั้งจัดทำแนวทางขอบเขต การศึกษาการจัดทำแผนการจัดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติเฉพาะแหล่งให้หน่วยงาน
ท้องถิ่นที่รับผิดชอบ แหล่งธรรมชาตินั้นๆ
นำไปใช้ในการวางแผนการจัดการพื้นที่ี่แหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์
2. ควรนำกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาบังคับใช้อย่างจริงจัง
หรือเร่งการออกหรือปรับปรุงแก้ไขและการบังคับใช้กฎหมาย และข้อบังคับเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรของแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์
นอกจากนั้นหากพื้นที่แหล่งธรรมชาติที่สำคัญมีคุณค่าสูงหาได้ยากยิ่ง และมีปัญหาเร่งด่วนในการป้องกันแก้ไขปัญหา
ให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม รีบดำเนินการจัดทำแผนการจัดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
และกำหนดการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
3. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ
ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องและผู้ที่เข้าไปใช้ประโยชน์ให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์
เพื่อให้มีการหลีกเลี่ยง การใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่ายิ่ง
และควบคุมไม่ให้มีการดัดแปลง ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมของแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์
4. ควรให้มีการจัดตั้งเครือข่ายท้องถิ่น
เพื่อช่วยในการติดตามตรวจสอบสภาพแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ และเสนอแนะ
แหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์เพิ่มเติม รวมทั้งสำนักงานฯ ควรปรับปรุงระบบฐานข้อมูลแหล่งธรรมชาติอันควรอนุรักษ์ให้ครบถ้วนสมบูรณ์และทันสมัย
มีความสามารถติดต่อประสานงานกับเครือข่ายท้องถิ่นที่จัดตั้งขึ้น
หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ทดแทนได้
1.
จัดระบบนิเวศให้มีทั้งชนิดและปริมาณให้ได้สัดส่วนในเกณฑ์มาตรฐานตามธรรมชาติ
2.
ทรัพยากรที่ใช้เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์นั้น
จะต้องใช้เฉพาะส่วนที่งอกเงยหรือส่วนที่เพิ่มพูนเท่านั้น
3.
มีการควบคุมและป้องกันรักษาทัพยากรธรรมชาติประเภทนี้ให้มีีศักยภาพในการให้ผลิตผล
4. ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิต
5. ยึดหลักการอนุรักษ์วิทยาเป็นสำคัญ
หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป
1.
ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงในการนำทรัพยากรประเภทนี้มาใช้ลดการสูญเสีย
2. ใช้ทรัพยากรประเภทนี้เท่าที่จำเป็น
3. นำส่วนที่เสียกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น การ Recycleขยะ
4. ควบคุมและป้องกันของเสียที่เกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
หลักในการอนุรักษ์
หลักการที่ 1
การใช้แบบยั่งยืน
ทรัพยากรทุกประเภทต้องมีแผนการใช้แบบยั่งยืน ซึ่งต้องวางแผนการใช้ตามสมบัติเฉพาะตัวของทรัพยากร
พร้อมทั้งเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมกับชนิดทรัพยากร
ปริมาณการเก็บเกี่ยวเพื่อการใช้ ช่วงเวลาที่จะนำไปใช้ และการกำจัด/บำบัดของเสีย
และมลพิษให้หมดไปหรือเหลือน้อยจนไม่มีพิษภัย
หลักการที่ 2
การฟื้นฟูสิ่งเสื่อมโทรม
ทรัพยากรธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น
เมื่อมีการใช้แล้วย่อมเกิดการเสื่อมโทรมเพราะการใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสม
เก็บเกี่ยวมากเกินความสามารถในการปรับตัวของระบบ มีสารพิษเกิดขึ้น
เก็บเกี่ยวบ่อยเกินไปและไม่ถูกต้องตามกาลเวลา จำเป็นต้องทำการฟื้นฟูให้ดีเสียก่อน
จนทรัพยากร/สิ่งแวดล้อมนั้น ๆ ตั้งตัวได้ จึงสามารถนำไปใช้ได้ในโอกาสต่อไป
อาจใช้เวลาในการฟื้นฟู กากำจัด การบำบัดหรือการทดแทนเป็นปี ๆ
หลักการที่ 3
การสงวนของหายาก
ทรัพยากรบางชนิดมีการใช้มากเกินไปหรือมีการ
แปรสภาพเป็นสิ่งอื่นทำให้บางชนิดของทรัพยากร/สิ่งแวดล้อมหายาก
ถ้าปล่อยให้
มีการใช้เกิดขึ้นแล้ว
อาจทำให้เกิดการสูญพันธุ์ได้ จำเป็นต้องสงวนหรือเก็บไว้ เพื่อเป็น
แม่พันธุ์หรือเป็นตัวแม่บทในการผลิตให้มากขึ้น
จนแน่นใจว่าได้ผลผลิตมากพอแล้ว
ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วไม่หมดสิ้น
1. ทำให้ปราศจากมลภาวะ
ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์ พืชและสัตว์
2. ควบคุมและป้องกันมิให้เกิดปัญญามลพิษจากขบวนการอุตสาหกรรม
เกษตรกรรม
และชุมชน
3. บริเวณที่มีการสารมลพิษแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมจะต้องรับการแก้ไขและ
กำจัดให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว
4. ให้การศึกษาต่อประชาชนถึงวิธีการควบคุมและป้องกัน รวมทั้งผลเสียหายอันเกิด
จากการใช้ทรัพยากรประเภทนี้
5. จัดการให้มีกฎหมายควบคุมการกระทำใด ๆ
ที่จะมีผลต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทางอ้อม สามารถทำ ได้หลายวิธี ดังนี้
1) การพัฒนาคุณภาพประชาชน โดยสนับสนุนการศึกษาด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมที่ถูกต้องตามหลักวิชา
ซึ่งสามารถทำได้ทุกระดับอายุ ทั้งในระบบโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ
และนอกระบบโรงเรียนผ่านสื่อสารมวลชนต่างๆ
เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการอนุรักษ์
เกิดความรักความหวงแหน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง
2) การใช้มาตรการทางสังคมและกฎหมาย การจัดตั้งกลุ่ม ชุมชน ชมรม สมาคม
เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ
ตลอดจนการให้ความร่วมมือทั้งทางด้านพลังกาย พลังใจ พลังความคิด
ด้วยจิตสำนึกในความมีคุณค่าของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่มีต่อตัวเรา เช่น
กลุ่มชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของนักเรียน นักศึกษา
ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย
มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มูลนิธิโลกสีเขียว เป็นต้น
3) ส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
ช่วยกันดูแลรักษาให้คงสภาพเดิม ไม่ให้เกิดความเสื่อมโทรม
เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตในท้องถิ่นของตน
การประสานงานเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักระหว่างหน่วยงานของรัฐ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับประชาชน ให้มีบทบาทหน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครอง
ฟื้นฟูการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
4) ส่งเสริมการศึกษาวิจัย ค้นหาวิธีการและพัฒนาเทคโนโลยี
มาใช้ในการจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น
การใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศมาจัดการวางแผนพัฒนา
การพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ให้มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น
การค้นคว้าวิจัยวิธีการจัดการ การปรับปรุง
พัฒนาสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เป็นต้น
5) การกำหนดนโยบายและวางแนวทางของรัฐบาล ในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะส้ันและระยะยาว
เพื่อเป็นหลักการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องยึดถือและนำไปปฏิบัติ
รวมทั้งการเผยแพร่ข่าวสารด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางตรงและทางอ้อม
1) การใช้อย่างประหยัด คือ การใช้เท่าที่มีความจำเป็น เพื่อให้มีทรัพยากรไว้ใช้ได้นานและเกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
2) การนำกลับมาใช้ซ้ำอีก
สิ่งของบางอย่างเมื่อมีการใช้แล้วครั้งหนึ่งสามารถที่จะนำมาใช้ซ้ำได้อีก เช่น
ถุงพลาสติก กระดาษ เป็นต้น หรือสามารถที่จะนำมาใช้ได้ใหม่โดยผ่านกระบวนการต่างๆ
เช่น การนำกระดาษที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อทำเป็นกระดาษแข็ง เป็นต้น
ซึ่งเป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและการทำลายสิ่งแวดล้อมได้
3) การบูรณะซ่อมแซม
สิ่งของบางอย่างเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจเกิดการชำรุดได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีการบูรณะซ่อมแซม ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานต่อไปได้อีก
4) การบำบัดและการฟื้นฟู
เป็นวิธีการที่จะช่วยลดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรด้วยการบำบัดก่อน เช่น
การบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ก่อนที่จะปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
ส่วนการฟื้นฟูเป็นการรื้อฟื้นธรรมชาติให้กลับสู่สภาพเดิม เช่น การปลูกป่าชายเลน
เพื่อฟื้นฟูความสมดุลของป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
5) การใช้สิ่งอื่นทดแทน
เป็นวิธีการที่จะช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การใช้ใบตองแทนโฟม การใช้พลังงานแสงแดดแทนแร่เชื้อเพลิง
การใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมี เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น